1.ทันตแพทย์จะเทียบสีฟันก่อนทำการฟอก เพื่อเอาไว้เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างหลังการฟอก.
2.ทันตแพทย์จะทำการขัดบริเวณผิวฟัน เพื่อให้น้ำยาฟอกสีฟันสัมผัสกับผิวฟันได้มากที่สุด.
3.เคลือบริมฝีปากด้วยปิโตรเลียมเจล เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวริมฝีปากสัมผัสกับน้ำยาฟอกสีฟันเพราะอาจทำให้ผิวไหม้.
4.สวมอุปกรณ์ช่วยถ่างปาก (Oral Gate) เพื่อช่วยพยุงริมฝีปากตลอดกระบวนการฟอกสีฟัน 30 นาที.
5.เป่าฟันและเหงือกในบริเวณที่จะสัมผัสกับน้ำยาฟอกสีฟันให้แห้งสนิท.
6.ป้องกันบริเวณขอบเหงือกที่สัมผัสกับกับฟันด้วยเด็นทัลเรซิ่น.
7.ใช้แสงบลูไลท์ เพื่อทำให้น้ำยาป้องกันเหงือกแข็งตัว.
8.ลักษณะของช่องปากเมื่อมีการเตรียมเรียบร้อยแล้ว.
9.การทาน้ำยาหรือเจลฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงลงบนผิวฟัน ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ตั้งแต่ขั้นตอนนี้เป็นต้นไปจนถึงการล้างน้ำยาฟอกสีฟัน คนไข้ห้ามขยับปากและลิ้น ส่วนน้ำลายนั้น ผู้ช่วยทันตแพทย์จะใช้เครื่องดูดน้ำลายพลังสูงคอยดูดน้ำลายออกจากปากคนไข้เอง.
10.สีแดงที่เห็นในภาพคือน้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง.
11.ทันตแพทย์จะปรับหัวของเครื่องฉายแสง Cool Light ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม.
12.ใช้เวลาในการฟอกสีฟันเพียง 30 นาที.
13.ทุก ๆ 10 นาที จะมีการหยุดเพื่อเปลี่ยนน้ำยา ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด.
14.การดูดน้ำยาตัวเก่าออก.
15.เป่าให้แห้ง.
16.ขึ้นตอนการเตรียมน้ำยาฟอกสีฟัน.
17.การทาน้ำยาฟอกสีฟันซำ้อีกครั้ง.
18.การฉายแสง Cool Light.
19.เสร็จสิ้นกระบวนการเมื่อผ่านเวลา 30 นาที.
20.ล้างน้ำยาฟอกสีฟันออก.
21.แกะเรซิ่นที่ใช้ป้องกันเหงือกไม่ให้สัมผัสกับน้ำยาฟอกสีฟันออก.
22.ทำความสะอาดช่องปาก.
23.นำตัวอย่างสีฟันที่เทียบไว้ก่อนการฟอกมาเปรียบเทียบเพื่อทดสอบความแตกต่างและผลลัพธ์.
24.การฟอกสีฟันด้วย Cool Light Teeth Whitening เสร็จสิ้นกระบวนการภายใน 30 นาที